KTB นำทัพปล่อยกู้สร้างบ้านประชารัฐ รับหน้าที่คัดกรองผู้ประกอบการ
KTB นำทัพปล่อยกู้สร้างบ้านประชารัฐ รับหน้าที่คัดกรองผู้ประกอบการ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการประชุมหารือร่วมกันกับ 3 ธนาคาร ทั้งธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน เพื่อหาแนวทางในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในโครงการบ้านประชารัฐวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้จะให้ธนาคารกรุงไทยทำหน้าที่คัดกรอง เสมือนเป็นผู้นำการปล่อยกู้และเป็นธนาคารหลัก โดยจะมี ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน เข้ามาร่วมปล่อยกู้ เนื่องจากเห็นว่าธนาคารกรุงไทยมีความเชี่ยวชาญและปล่อยสินเชื่อใน ลักษณะนี้มาก่อน โดยอัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรกจะเป็นอัตราผ่อนปรนที่ 4% หลังจากนั้นจะคิดตามอัตราปกติของแต่ละธนาคาร
ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล รองกรรมการผู้จัดการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยจะเข้ามาเป็นธนาคารหลักในการปล่อยกู้ ให้กับผู้ประกอบการโครงการบ้านประชารัฐ โดยจะเน้นการปล่อยกู้ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดย ธนาคารอาคารสงเคราห์ และธนาคารออมสิน สามารถปล่อยกู้ร่วมได้
ขณะเดียวกัน ธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน จะเน้นการปล่อยกู้ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ จึงยังเป็นประเด็นที่ทำให้ ธปท.เกิดความกังวล เรื่องการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ทั้ง 2 ธนาคาร ส่งเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อมาให้ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลังดูก่อน ซึ่งในส่วนของธนาคารอาคารสงเคราะห์มีการปล่อยกู้ กับผู้ประกอบการรายเก่าๆ อยู่แล้ว จึงมีเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อดังกล่าวอยู่แล้ว
ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่าในส่วนโครงการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างบ้านประชารัฐนั้น ธนาคารยังปล่อยสินเชื่อได้ไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นรายเล็ก และยังชะลอตัวอยู่ เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่มีทางเลือกแหล่งเงินจากส่วนอื่นมากกว่า อีกทั้งต้องการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์โครงการเดิมก่อน ทำให้โครงการที่ปล่อยกู้ให้กับประชาชนที่ต้องการซื้อบ้าน หรือ โพสต์ไฟแนนซ์หมดอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในขณะนี้ผู้ประกอบการเอกชนบางส่วนอาจจะกำลังรอดูทิศทางในการสร้างบ้านใหม่ในตลาดก่อน ว่าจะเป็นอย่างไรก่อนที่จะตัดสินใจต่อไป
ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า
1683 total views, 2 today