คลังเตรียมคุมบริษัทเงินกู้ เช่าซื้อ ตั้งองค์กรใหม่บังคับขึ้นทะเบียน
คลังเตรียมคุมบริษัทเงินกู้ เช่าซื้อ ตั้งองค์กรใหม่บังคับขึ้นทะเบียน
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยว่า ทางกระทรวงมีแนวคิดจะจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา เพื่อควบคุมดูแลผู้ให้บริการการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ได้กำกับดูแล ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวจะมาทำหน้าที่ตรวจสอบเป็นหลัก ส่วนการกำกับดูแลจะเป็นอำนาจของกระทรวงการคลังเหมือนเดิม
“เหตุเพราะธุรกิจพวกนี้มีรายเล็กรายน้อยเยอะ ไม่เหมือนธนาคาร ดังนั้นเมื่อตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา ก็คงต้องขอคนจากแบงก์ชาติจำนวนหนึ่งมาช่วย โดยต้องเอาคนที่ชำนาญเรื่องการตรวจสอบ ซึ่งในที่สุดก็จะเป็นการตรวจสอบสินเชื่อที่อยู่นอกเหนือการกำกับดูแลของทางแบงก์ชาติทั้งหมด” นายอภิศักดิ์กล่าว
ซึ่งผู้ให้บริการทางการเงิน ที่เข้าข่ายอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ ส่วนหนึ่งนั้นปัจจุบันอยู่ภายใต้ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 (ปว.58) โดยจะครอบคลุมผู้ให้บริการลีสซิ่ง เช่าซื้อ และพิโคไฟแนนซ์ แต่ไม่ครอบคลุมถึงธุรกิจบัตรเครดิตที่เป็นบริษัทลูกของแบงก์ เพราะ ธปท.กำกับดูแลในส่วนนั้นอยู่แล้ว
“หลักการก็คือ อะไรที่แบงก์ชาติคุมอยู่ ก็จะไม่เอามา ส่วนอะไรที่แบงก์ชาติไม่ได้คุม ก็จะเอามาดูแล เช่น พิโคไฟแนนซ์ ลีสซิ่ง เช่าซื้อ” นายอภิศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทที่ทำธุรกิจ ลีสซิ่ง แฟกตอริ่ง เช่าซื้อ จำนำทะเบียน ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเดียวกัน โดยการทำธุรกิจจะอยู่ภายใต้ประกาศ ปว.58 ขณะที่การจัดตั้งไม่จำเป็นต้องขออนุญาต เพียงแค่ไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทกับกระทรวงพาณิชย์ ก็ดำเนินการได้แล้ว
ส่วนการควบคุมดูแลจะมีเพียงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่จะเข้าไปตรวจสอบในกรณีมีผู้บริโภคร้องเรียนเท่านั้น โดยบทลงโทษต่าง ๆ ก็จะพิจารณาขั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะระบุจำนวนของธุรกิจเหล่านี้ได้ หากไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยธุรกิจประเภทนี้ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯมีอยู่ราว 20 บริษัท และที่เป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย มีอยู่ราว 30 บริษัท นอกจากนี้ยังมีผู้ให้บริการรายย่อยตามท้องถิ่นอีกจำนวนมาก
สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะนัดผู้เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกันในเร็ว ๆ นี้ เพื่อฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อน ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับแนวทางที่กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการอยู่นี้ โดยจะดำเนินการเพื่อให้กฏหมายมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้
1584 total views, 3 today