เศรษฐกิจฝืด คนไทยแห่พึ่งนอนแบงค์มากขึ้น
เศรษฐกิจฝืด คนไทยแห่พึ่งนอนแบงค์มากขึ้น
จากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวในเร็ววัน ส่งผลให้ประชาชนกลุ่มผู้มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป เริ่มประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินและหันไปกู้เงินจากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารหรือนอนแบงค์มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงใช้จ่ายในสภวะพิเศษต่างๆเช่น เพื่อการท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อการแต่งงาน หรือการรักษาพยาบาลเป็นต้น
ข้อมูลเหล่านี้เปิดเผยโดยนาย วิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในนอนแบงค์หรือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ซึ่งหมายถึงสถาบันการเงินที่ไม่ได้รับเงินฝากจากประชาชนทั่วไป แต่ให้บริการสินเชื่อกับประชาชนได้นั่นเอง
สำหรับภาวะสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเห็นได้จากยอดคงค้างสินเชื่อบุคคลทั้งระบบธนาคารและนอนแบงค์ที่มีจำนวนรวมกว่า 3.25 แสนล้านบาท โดยแม้จะมีอัตราการเติบโต 3.8% แต่สัดส่วนการเติบโตของนอนแบงค์คือ 9.6% หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อรวมถึง 1.67 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าสวนทางกับสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไปที่หดตัวลง 1.7% และมียอดสินเชื่อเพียง 1.58 แสนล้านบาทเท่านั้น ทำให้กลายเป็นว่ากลุ่มนอนแบงค์กำลังครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในกลุ่มตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว
และผลจากการสำรวจข้อมูลพบว่า ในช่วงหลังคนไทยไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลกับอัตราดอกเบี้ยระดับ 28% ที่ถูกเรียกเก็บจากสินเชื่อประเภทนี้ ส่วนใหญ่มุ่งหวังให้ได้รับอนุมัติสินเชื่อที่รวดเร็วและมีวงเงินมากเพียงพอกับความต้องการใช้จ่ายในภาวะเหตุการณ์นั้นๆ ทำให้แนวโน้มของธุรกิจนอนแบงค์มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่เราสามารถพบเห็นนอนแบงค์เปิดสาขาต่างๆเพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ต และหลายบริษัทต่างพยายามทำการตลาดอย่างเต็มที่ พร้อมๆกับสภาวะหนี้สินครัวเรือนของคนไทยที่ย่อมจะสูงตามไปด้วยนั่นเอง
1692 total views, 1 today