ลลิลเผยยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง เหตุหนี้ครัวเรือนสูง
ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง เหตุหนี้ครัวเรือนสูง
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่าจากข่าวที่กระทรวงการคลังกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์รอบ 2 นั้น เขามองว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นตลาดได้เพียงระยะสั้นๆ คล้ายๆกับปี 2559 แต่โดยภาพรวมคาดว่าไม่ได้ช่วยให้ตลาดขยายตัวมากกว่าที่ประเมินไว้ว่าจะเติบโต 3-5% ในปี 2560 นั่นเพราะเป็นเหมือนการดึงกำลังซื้อในอนาคตมาใช้ และเมื่อมาตรการสิ้นสุดลง การชะลอตัวของตลาดก็จะเกิดตามมา
และจากการที่หนี้สินครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 80% ของจีดีพี ทำให้การขอสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์จะมีความเข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง ส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น ภาครัฐจึงควรพิจารณาผ่อนคลายเกณฑ์การติดแบล็กลิสต์ในเครดิตบูโรจากปัจจุบันเป็นระยะเวลา 3 ปี ควรลดลงเป็น 1 ปี
โดยแนวทางนี้มองว่าเป็นแนวทางที่มีความเหมาะสม เพราะจะส่งผลให้ผู้กู้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการขายสินค้าและระบายสต๊อกออก อันจะส่งผลดีในระยะยาวมากกว่า เนื่องจากถึงจะมีการใช้มาตรการที่มีผลระยะสั้นก็จริง แต่ลูกค้าก็ยังต้องเผชิญปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารอยู่ดี
ในส่วนของแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในปี 2560 นั้นบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3.6 พันล้านบาท และตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ไว้ที่ 3.1 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% จากปี 2559 ทั้งยอดขายและยอดรับรู้รายได้
ปัจจุบันนี้บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) จำนวน 750 ล้านบาทซึ่งจะทยอยโอนในปี 2560 ทั้งหมด ส่วนแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2560 วางไว้ที่ 8-10 โครงการซึ่งจะเป็นเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 4 พันล้านบาท
1285 total views, 1 today
