รวบนายทุนเงินกู้นอกระบบย่านประเวศ อ้างไม่รู้ว่าผิดกฏหมาย
รวบนายทุนเงินกู้นอกระบบย่านประเวศ อ้างไม่รู้ว่าผิดกฏหมาย
เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 27 กรกฏาคมที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.พรศักดิ์ พิทยารัตน์ รอง ผกก.5 บก.ปอศ. ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม เฮียอ้วน อายุ 52 ปี ชาว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็มของธนาคารต่างๆ พร้อมรหัสของผู้กู้ยืมจำนวน ห้าร้อยกว่าใบ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้กู้ยืม บัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืม บัตรประกันสังคมของผู้กู้ยืม เป็นจำนวนมาก
โดย พล.ต.ต.สมหมายกล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.5 บก.ปอศ.ได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบแน่ชัดว่า มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลปล่อยเงินกู้นอกระบบ ในเขตประเวศและเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และใช้วิธีการทำสัญญาเงินกู้พร้อมยึดบัตรประชาชน บัตรประกันสังคม และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ ของผู้กู้ยืมไว้ และหากผู้กู้คนใดมีบัตรเอทีเอ็มก็จะยึดบัตรพร้อมรหัสเอาไว้เพื่อที่จะได้นำบัตรเอทีเอ็มไปเบิกเงินจากตู้ ATM เอง
และเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.ได้นำหมายค้นของศาลแขวงพระโขนง บ้านหลังหนึ่งใน ซ.อ่อนนุช 62 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ซึ่งบ้านพักของผู้ต้องหารายนี้ ขณะทำการตรวจค้นก็มีเฮียอ้วนแสดงตนเป็นผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าว โดยผลการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าวแล้วข้างต้นจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางพร้อมควบคุมตัวเฮียอ้วนมาสอบสวน
ผลจากการสอบปากคำ เฮียอ้วนให้การว่าส่วนตัวทำอาชีพเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดิน และเริ่มปล่อยเงินกู้ตั้งแต่ปี 2540 แต่ไม่ทราบว่าผิดกฎหมาย จนกระทั่งมาถูกจับกุมในปี 2551 โดยลูกหนี้ส่วนใหญ่เป็นพนักงานห้างสรรพสินค้าซึ่งจะทราบกันว่าตนเองปล่อยเงินกู้โดยการบอกปากต่อปาก ซึ่งลูกหนี้จะเดินทางเข้ามากู้เงินกับตนเอง เนื่องจากตั้งเป็นออฟฟิศปล่อยเงินกู้อยู่ในย่านอ่อนนุช
เฮียอ้วนยังให้การเพิ่มเติม โดยอ้างว่า ตนเลิกปล่อยเงินกู้มานานแล้วตั้งแต่ปี 2551 หลังจากถูกจับกุม โดยของกลางที่ยึดมาส่วนใหญ่เป็นเอกสารเก่าที่เก็บไว้นานแล้วเผื่อว่าวันหนึ่งเจอลูกหนี้เก่าก็จะทวงหนี้สินที่เคยปล่อยกู้เอาไว้คืน
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด, มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน และทาง กก.5 บก.ปอศ.จะได้ทำการสืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำผิดต่อไป
ภาพข่าวจาก manager.co.th
2553 total views, 1 today