รถยนต์ติดไฟแนนซ์ หากรถหายต้องผ่อนต่อหรือไม่
รถยนต์ติดไฟแนนซ์ หากรถหายต้องผ่อนต่อหรือไม่
หลายคนคงรู้สึกได้ว่าเศรษฐกิจไทยช่วงปีหลังนี้ย่ำแย่ลง การค้าขายไม่คึกคักเท่าที่ควร คดีฉก ชิง วิ่ง ราว มีเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงทรัพย์สินใหญ่ๆ อย่างรถยนต์ที่มีข่าวคราวเรื่องการโดนขโมย ไม่ว่าจะเป็นป้ายขาวป้ายแดงมากขึ้น บางคันใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ถูกส่งข้ามแดนไปแล้ว คำถามคือหากท่านเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ถูกขโมยและกำลังผ่อนไฟแนนซ์อยู่ ท่านจะต้องผ่อนต่อหรือไม่ หรือว่าต้องผ่อนกุญแจรถต่อไป
คำแนะนำจากทนายความชื่อดังระบุว่า เมื่อทราบว่ารถหายให้รีบไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับทางตำรวจ แล้วนำสำเนาแจ้งความไปมอบให้กับ บ. ประกันภัยและไฟแนนซ์ โดยไม่จำเป็นต้องผ่อนต่อไปอีก เพราะรถยนต์ที่ซื้อมาผ่านกระบวนการไฟแนนซ์นั้นเป็นการเช่าซื้อ
นั่นคือเป็นการให้เช่า และมีคำมั่นว่าจะขายให้กับผู้เช่าเมื่อครบสัญญา ดังนั้นเมื่อทรัพย์ที่เช่าซื้อสูญหาย สัญญาย่อมระงับไป ผู้เช่าซื้อไม่ต้องจ่ายค่าเช่าให้กับผู้ให้เช่าซื้ออีกต่อไป
หลายคนโดยไฟแนนซ์หลอกให้ผ่อนกุญแจ ทั้งๆที่สัญญาได้รับงับไปแล้ว รถก็ไม่มีใช้ทำมาหากิน ต้องไปกู้หนี้ยืมสินแล้วยังต้องมาผ่อนกุญแจเปล่าๆ กันอีกหรือ
ในทางกฏหมาย ควรต้องหยุดจ่ายค่างวดทันทีเพราะรถที่เช่าซื้อสูญหายไปแล้ว สัญญาเช่าซื้อก็ต้องระงับไป เงินประกันรถหายก็ได้ไปแล้ว โดยปกติแล้ววงเงินประกัน 80% ของราคาเต็ม ดังนั้นจึงเหลือเพียงประด็นเดียวก็คือว่าค่าเสียหายที่เกิดขึ้นมีจำนวนเท่าไหร่
เรื่องนี้ศาลฎีกาเคยวางบรรทัดฐานเอาไว้ว่า ถ้ารถที่เช่าซื้อสูญหาย ก็ต้องมาคำนวณกันว่า รถราคาเท่าใด ผู้เช่าซื้อจ่ายเงินค่างวดมาแล้วเป็นจำนวนเท่าใด บริษัทประกันได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับบริษัทผู้ให้เช่าซื้อหรือไฟแนนซ์เนื่องจากรถหายเป็นจำนวนเท่าใดแล้ว หากรวมเงินทั้ง 2 จำนวนหลังแล้วเกินกว่าราคารถที่ไฟแนนซ์ซื้อมา ผู้เช่าซื้อก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายเพิ่ม
ถ้าหากสัญญาเช่าซื้อมีข้อตกลงให้บริษัทไฟแนนซ์เรียกค่าเช่าซื้อที่ยังขาดอยู่ได้ แม้ว่าทรัพย์ที่เช่าซื้อนั้นสูญหายไปแล้ว เรื่องนี้ศาลมีอำนาจที่จะกำหนดให้ผู้เช่าซื้อชำระหรือไม่ก็ได้ ศาลจะกำหนดมูลค่าความเสียหายให้ตามสมควร แต่มิใช่การให้ชำระค่าเช่าซ์้อจนครบตามสัญญา หากไฟแนนซ์มาหลอกให้เราผ่อนกุญแจต่อจนครบแล้วละก็ ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ต่อสู้กันในศาลได้เลย
2537 total views, 1 today