คลังงง เอกชนเมินพิโคไฟแนนซ์
คลังงง เอกชนเมินพิโคไฟแนนซ์
หลังจากที่ทางกระทรวงการคลังเปิดให้ผู้ให้บริการเงินกู้นอกระบบ หันมาทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด หรือที่เรียกว่า สินเชื่อพิโคไฟแนนซ์ โดยสินเชื่อประเภทนี้ ผู้ประกอบการสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับและค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมกันแล้วไม่เกิน 36% ต่อปีนี้
ผลปรากฏว่านับตั้งแต่วันที่ 1 – 9 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา มีผู้สนใจยื่นสมัครเพียง 3 รายเท่านั้น ทั่งนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าทางผู้ประกอบการเงินกู้นอกระบบเกรงว่าขึ้นตอนการขออนุญาตจะยุ่งยาก และเนื่องจากการทำธุรกิจเงินกู้นอกระบบไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน และไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐ อีกทั้งยังมีการจัดเก็บอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่สูง เลยอาจจะยังมีข้อจูงใจให้ประกอบธุรกิจเงินกู้นอกระบบอยู่ต่อไป
สำหรับพิโคไฟแนนซ์นั้น กระทรวงการคลังคาดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสามารถคิดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมได้สูงถึง 36% ต่อปีโดยไม่ผิดกฏหมาย และยังมีทุนจดทะเบียนต่ำเพียง 5 ล้านบาท ซึ่งน่าจะมีเงื่อนไขที่ผ่อนปรนกว่าสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่ผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียนถึง 50 ล้านบาท
ด้าน รมว.คลัง กล่าวว่าช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นของพิโคไฟแนนซ์ แม้จะมีผู้ยื่นสมัคเพียงไม่กี่ราย แต่หากมีการบังคับใช้กฏหมายเข้มงวดแล้ว เชื่อว่าผู้ประกอบการเงินกู้นอกระบบเหล่านี้จะเข้าสู่ระบบพิโคไฟแนนซ์มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ได้ผ่านการพิจารณาของ สนช แล้ว ซึ่งจะมีการเพิ่มโทษสำหรับเจ้าหนี้นอกระบบที่เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกฏหมายกำหนด จากเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับใหม่เป็น ปรับเไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี
3285 total views, 1 today