ขาดประสบการณ์ แต่ฝันหวานเกินไป – เหตุที่กู้เงินมาลงทุนไม่ได้
ขาดประสบการณ์ แต่ฝันหวานเกินไป – เหตุที่กู้เงินมาลงทุนไม่ได้
บทความนี้เป็นคำแนะนำทางการเงินแนวมินิซีรีส์นะครับ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์เหตุผลที่ทำให้เรากู้เงินจากสถาบันการเงินเพิ่อนำมาลงทุนแล้วไม่ผ่านการพิจารณา ซึ่งประเด็นที่ได้กล่าวถึงมาแล้วคือ การไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนประเด็นต่อไปคือ ขาดประสบการณ์แต่ฝันเฟื่องเกินไป
หากปัญหาหลักทรัพย์ไม่ใช่ประเด็น ปัญหาต่อมาคือผู้ประกอบการที่ต้องการกู้เงิน ยังไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจนั้นๆมากเพียงพอ เห็นคนอื่นทำแล้วมีลูกค้าเต็มร้าน ก็คิดไปเองว่าตัวเองจะทำได้แบบเดียวกัน บางทีไปอ่านนิตยสารประเภท SME จากคอลัมน์อาชีพ หรือไปเห็นแฟรนไชส์ต่างๆแล้วคิดว่าตัวเองอยากทำธุรกิจ แต่เงินไม่พอแล้วไปขอกู้เงิน พอโดนปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็มองไม่ออกว่าประเด็นคืออะไร
ความจริงแล้วมันเป็นเพราะแง่คิดที่ต่างกันนั่นเองระหว่างผู้ขอกู้ กับผู้ให้กู้ โดยนักลงทุนที่ไปขอกู้เงินนั้นเวลาเขียนโครงการก็ตั้งตัวเลขว่าน่าจะมีลูกค้าจำนวนเท่านั้นเท่านี้ รายได้จะมีเท่านี้ กำไรเป็นเท่านี้ นั่นคือมักจะมองในแง่ที่ดีว่าธุรกิจอยู่ตัวแล้ว ลูกค้าติดตลาด ฝันเฟื่องว่าจะประสบความสำเร็จ แต่ไม่มองว่าหากไม่มีลูกค้าจะทำอย่างไร
ส่วนฝั่งของผู้ให้สินเชื่อ เขาไม่สนใจตัวเลขสวยหรูในกระดาษหรอกว่าจะได้กำไรเท่าไหร่ยังไง เขาสนใจแค่เพียงว่าหากธุรกิจไม่เป็นไปตามเป้า ลูกค้าสินเชื่อจะมีความสามารถในการชำระหนี้หรือไม่ ดังนั้นการที่ไม่อนุมัติสินเชื่อจึงเป็นเพราะว่าตัวผู้กู้เองยังไม่เข้าใจธุรกิจถ่องแท้ มัวแต่มองเพียงด้านดี ยังไม่พยายามมองด้านเลวร้ายว่าหากเปิดแล้ว 3 เดือน 6 เดือน ยอดขายไม่ถึงเป้าจะทำอย่างไร
การไม่อนุมัติสินเชื่อในลักษณะนี้ มักจะเป็นการขอกู้ทำธุรกิจที่ผู้ขอกู้มองเห็นเพียงโอกาสในการทำธุรกิจ แต่ไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านนั้นๆมาก่อน เช่นปกติเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง แต่เห็นมีลูกค้าผู้รับเหมามาซื้อสินค้ามากมายเลยคิดจะทำโครงการบ้านจัดสรรกับเขาด้วย เลยขอยื่นกู้ธนาคารกับเขาบ้าง
โอเคว่าตัวเองมีแหล่งวัตถุดิบอยู่ในมือ แต่ประสบการณ์ในการบริหารงานโครงการบ้านจัดสรรอาจจะไม่เคยมี เลยอาจจะพลาดพลั้งในขั้นตอนการหาช่างมาทำ การขอใบอนุญาต การขาย รวมไปถึงการควบคุมงานต่างๆ และอาจจะเป็นผลให้เงินสดขาดมือเพราะขายไม่ออก และอาจจะส่งผลกระทบถึงธุรกิจหลักของตัวเองได้
จากตัวอย่างนี้ผู้ให้สินเชื่ออาจจะมองว่า ยอดเงินที่ขอกู้นั้นมากเกินไป หากยอดขายไม่ดีเนื่องจากทำเล หรือสภาวะเศรษฐกิจหรืออะไรก็แล้วแต่ ผู้ให้สินเชื่อก็จะมองว่า ผลกำไรจากธุรกิจหลักจะยังพอประคองได้หรือไม่ จึงอาจจะมีการลดยอดสินเชื่อลงเป็นต้น
ดังนั้นแม้ผู้กู้จะมีหลักทรัพย์เพียงพอ แต่หากต้องการเริ่มธุรกิจใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ โอกาสในการขอสินเชื่อก็ยาก นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมสถาบันการเงินจึงมักมีแคมเปญสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการเดิมที่มีธุรกิจอยู่แล้วและต้องการขยายธุรกิจ เหตุก็เพราะถือว่าผู้ประกอบการมีประสบการณ์ในการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว และสามารถดูผลลัพธ์ได้จากการเดินบัญชีธุรกิจที่ผ่านมานั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ หากท่านเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ และหวังผลจะกู้เงินธนาคารเพื่อการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆแล้วละก็ อย่าคาดหวังให้มากนักว่าสถาบันการเงินไหนจะสนใจปล่อยกู้ คุณควรจะรวบรวมเงินสดที่มี ไม่ว่าจะเป็นจากการขายสินทรัพย์ที่มีบางส่วน หรือหยิบยืมญาติหรือเพื่อนพ้อง แล้วเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆขึ้นมาก่อน ศึกษาผลการดำเนินงาน ลงบัญชี แล้วแก้ปัญหาให้ได้ซักระยะจนมีลูกค้าที่แน่นอน มีกำไรชัดเจน
จนถึงจุดหนึ่งที่คุณมองว่าการขยายธุรกิจด้วยการลงทุนเพิ่ม คือการเพิ่มอัตรากำไรให้คุณโดยไม่จำเป็นต้องลองผิดลองถูกอีก จุดนี้แหละที่สถาบันการเงินต่างๆจะเริ่มวิ่งเข้าหาคุณ เนื่องจากทุกคนจะมองเห็นแต่ทางสว่าง และโอกาสในการล้มนั้นจะลดน้อยลง เพราะถือว่าคุณเริ่มมีประสบกาณ์ในการดำเนินธุรกิจแล้วนั่นเอง
3089 total views, 1 today