เพื่อนจะมายืมเงิน ควรจะให้ยืมดีหรือไม่
เพื่อนจะมายืมเงิน ควรจะให้ยืมดีหรือไม่
บางครั้งบางคราวเพื่อนสนิทเราที่ก่อนหน้านี้ดูท่าทางลั้นลาดี แต่วันนี้กลับเดินหน้ามุ่ยมาขอร้องคุณบอกว่า ร้อนเงิน ขอยืมเงินหน่อย คุณเองก็เริ่มอึดอัดใจตัดสินใจไม่ถูกว่าจะให้ยืมเงินดีหรือไม่ ลองอ่านคำแนะนำต่อไปนี้ดูนะครับ
ปัญหาของเราคนที่ถูกยืมคือกลัวเสียเพื่อนทั้งขึ้นทั้งล่อง เพราะหากปฏิเสธเพื่อนก็หาว่าใจดำ แต่พอให้ยืมไปเพื่อนก็ไม่ยอมสู้หน้าเพราะกลัวเราทวงเงิน เลยเท่ากับเสียเพื่อนไปโดยปริยาย เราจึงควรหลีกเลี่ยงปัญหาเสียตั้งแต่ต้นโดยการพิจารณาประเด็นสำคัญต่างๆ ดังต่อไปนี้
คุณมีความสามารถที่จะให้ยืมตังค์ได้หรือไม่
ก่อนอื่นต้องพิจารณาก่อนว่าคุณมีตังค์ในกระเป๋าหรือไม่ ที่หากว่าให้ไปแล้วไม่ได้คืนจะไม่เดือดร้อน
เช็คดูว่าเขาเดือดร้อนเพราะอะไร มีแนวโน้มจะได้คืนหรือไม่
บางครั้งความเดือดร้อนของเพื่อนหมายถึงความเป็นความตาย ที่ถ้าเป็นเราก็คงจำเป็นต้องใช้เงินเช่น ต้องเข้าโรงพยาบาล ต้องจ่ายค่าปรับเพื่อไถ่ถอนรถยึดเป็นต้น เราต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดี หว่านล้อมให้เขาแสดงหลักฐานว่าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นจริงๆ ไม่ใช่แต่งเรื่องมาหลอกยืมเงินคุณ
เรื่องถัดมาก็คือให้เขาวางแผนการเงินให้ดูว่า เขาจะผ่อนคืนอย่างไร ถ้าผ่อนเป็นรายเดือนก็ดูว่ารายรับเขาเอามากจากไหน จะมีส่วนตรงไหนเหลือมาจ่ายเรา ถ้าเขาจริงใจ มีความเดือดร้อนที่จะมาหยิบยืมจริง เขาก็จะต้องสามารถบอกเราได้ว่าจะเอาเงินตรงส่วนไหนมาคืนและเมื่อไหร่ หากเขายังตอบไม่ได้ก็ให้เขากลับไปคิดมาและนำมาเสนอใหม่ สร้างความยุ่งยากให้เขาที่ต้องทำการบานเผลอๆ เขาก็จะไม่กล้ามายืมคุณ เพราะทุกครั้งที่เขาเอ่ยปากยืม คุณก็แค่ถามไปว่าแผนจ่ายคืนไปถึงไหนแล้ว
จะทำอย่างไรถ้าเพื่อนไม่จ่ายหนี้คืน
ปกติแล้วคุณมักจะมั่นใจว่าคนที่ยืมเงินคุณไปจะต้องมีเงินมาคืนคุณแน่ เพราะท่าทางตอนเขาขอยืมเขาหว่านล้อมจนคุณเข้าใจอย่างนั้นถึงให้ยืมไป แต่คุณจะยังคงต้องคิดว่าคุณจะทำอย่างไรหากเขาไม่คืนเงิน
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของการตัดสินใจของท่านเองว่าจะช่วยเหลือเพื่อนฝูงหรือไม่ แต่เป็นสิ่งที่คุณควรจะคิดเอาไว้แม้ว่าคุณจะมั่นใจว่าเขาจะจ่ายเงินคืน 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม
จะต้องทำอะไรให้เป็นทางการหรือไม่
การกู้ยืมเงินถ้าไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรท่านว่าจะฟ้องร้องกันมิได้ การแค่ลงลายมือชื่อสั้นๆว่า ข้าพเจ้า นาย ก. ยืมเงิน นาย ข. เป็นจำนวนเงิน xxx บาท และลงลายมือชื่อของผู้ยืมก็ถือเป็นหลักฐานที่ใช้ในการฟ้องร้องได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากยืมเงินเป็นจำนวนพอสมควร หากผู้ยืมเสียชีวิตไปเรายังสามารถเอาหลักฐานไปยื่นต่อกองมรดกได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วสำหรับคนไทยถ้าจำนวนไม่มากก็จะถือว่าเป็นการทำบุญอโหสิให้กับผู้เสียชีวิตไป
5335 total views, 1 today
