เจ้าหนี้หนาว เล็งเพิ่มโทษนายทุนขูดเลือด พร้อมนิยามคำว่า ดอกเบี้ยใหม่
เจ้าหนี้หนาว เล็งเพิ่มโทษนายทุนขูดเลือด พร้อมนิยามคำว่า ดอกเบี้ยใหม่
ลูกหนี้เงินกู้ทั้งในระบบและนอกระบบเตรียมเฮ หลังกระทรวงยุติธรรมเตรียมชงแก้กฏเพิ่มโทษ สถาบันการเงิน นายทุนเงินกู้คิดดอกเบี้ยเกินอัตรา หลังใช้กฏหมายเก่ามากว่า 83 ปี ไม่ทันกับยุคสมัย พร้อมเตรียมกำหนดนิยามคำว่า ดอกเบี้ยใหม่ หลังสถาบันการเงินเลี่ยงใช้คำ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ หวังสกัดกั้นนิติกรรมอำพรางของธุรกิจในแวดวงสินเชื่อ
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดี DSI ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ย พ.ศ. …. ว่า พ.ร.บ. ห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 นั้นบังคับใช้ว่าเป็นเวลากว่า 83 ปีแล้ว เนื้อหาของกฏหมายไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
ทำให้ปัจจุบันนายทุนเข้ามาเอารัดเอาเปรียบ โดยอาศัยช่องว่างทางกฏหมาย หวังประโยชน์จากดอกเบี้ยในอัตราที่สูง มีการกระทำในลักษณะแอบแผงการกู้ยืมเงิน มีการทำนิติกรรมอำพราง เพื่อเรียกดอกเบี้ยโดยใช้ลักษณะการบิดเบือนข้อกำหนดในสัญญาและเจตนาของคู่สัญญา
ในส่วนของลูกหนี้เองซึ่งตกอยู่ในสภาวะด้อยโอกาส ไม่มีอำนาจต่อรอง และยังขาดความรู้ความเข้าใจทางด้านกฏหมาย จึงทำให้ถูกเอารัดเอาเปรียบได้ และสุดท้ายต้องดิ้นรนหาเงินมาชำระหนี้ หรือถูกยึดทรัพย์สินไป ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในสังคมมาก กฏหมายที่ใช้อยู่ก็ไม่สามารถทำให้นายทุนเกรงกลัวได้ จึงเห็นว่าควรมีการแก้ไขกฏหมาย และเพิ่มเติมเพื่อควบคุมเจ้าหนี้นอกระบบที่มีพฤติกรรมทวงหนี้รุนแรง และป้องกันผู้กู้ไม่ให้มีการใช้จ่ายฟุ่มเฟือ
ซึ่งบทลงโทษของการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กำหนดที่ร้อยละ 15 ต่อปีนั้น หากผู้ที่ทำผิดมีโทษตามกฏหมายเก่าคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งที่ประชุมได้มีการเสนอบทลงโทษในร่าง พ.ร.บ. นี้คือหากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท
ส่วนโทษของกลุ่มกระบวนการที่ทำเป็นลักษณะนายทุน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท และหากผู้ที่กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเพิ่มโทษเป็น 2 เท่า
นอกจากนี้แล้วที่ประชุมยังได้เสนอให้มีการนิยามคำว่า ดอกเบี้ย นั้นหมายรวมถึงค่าธรรมเนียม และค่าบริการอื่นๆที่เรียกเก็บด้วย เพราะที่ผ่านมาธุรกิจประเภท บัตรเครดิต ไฟแนนซ์ บัตรกดเงินสดต่างๆ มักจะมีการใช้ถ้อยคำเพื่อหลีกเลี่ยงให้เข้าใจว่าไม่ใช่ดอกเบี้ย เช่นคำว่า ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ เป็นต้น แต่สุดท้ายแล้วก็คือเงินที่ผู้ใช้บริการต้องจ่ายไปอยู่ดี
ที่มา manager.co.th
2156 total views, 1 today