เกียรตินาคิเผยสินเชื่อโต 15% รุกขยายฐานลูกค้ารายใหญ่
เกียรตินาคิเผยสินเชื่อโต 15% รุกขยายฐานลูกค้ารายใหญ่
นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน ได้เปิดเผยว่า ปีนี้ทางธนาคารได้มีการปรับเป้าหมายสินเชื่อรวม โดยคาดจะขยายตัวก้าวกระโดดราว 15% จากตัวเลขประมาณการเดิมที่เคยคาดว่าจะเติบโตราว 5-7% เท่านั้น โดยที่ทางธนาคารจะหันมาเน้นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่และกลุ่ม Wealth Management มากขึ้น ประกอบกับการจัดตั้งสายงานช่องทางการตลาดและพัฒนาฐานลูกค้า อันจะช่วยให้การขยายฐานลูกค้าในมิติต่างๆ เห็นผลชัดเจนมากขึ้น
อย่างไรก็ตามจากภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ ที่ยังมีความเสี่ยงเรื่องภาวะภัยแล้ง ภาวะเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่และของเศรษฐกิจโลกที่ยังต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะอาจทำให้การขยายตัวของสินเชื่อธนาคารไม่เป็นไปตามเป้าที่วางเอาไว้
สำหรับแผนธุรกิจของปี 2559 ได้เข้าสู่ระยะที่ 2 คือ นั่นคือการขยายธุรกิจตามยุทธศาสตร์หลัก 3 ด้าน ได้แก่ การเป็น Credit House ที่มีประสิทธิภาพ ถัดมาคือการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ Private Banking ที่ภัทรมีประสบการณ์ทางธุรกิจนี้มากว่า 15 ปี และสุดท้ายคือรักษาความเป็นผู้นำในด้าน Investment Banking ที่เป็นธุรกิจดั้งเดิมของภัทรและเป็นผู้นำในธุรกิจนี้อยู่เดิมแล้ว
ปีนี้จึงถือเป็นปีที่สำคัญของธนาคาร ในการขยายธุรกิจและเติบโตในเซ็กเมนท์เดิมที่มีความพร้อม เริ่มจากการใช้ประโยชน์จากความร่วมมือของบริษัทในกลุ่ม อาทิ สินเชื่อบรรษัทจากฐานลูกค้าบริษัทขนาดใหญ่ของกลุ่มธุรกิจฯ ตลอดจน Lombard Loan สินเชื่อหมุนเวียนอเนกประสงค์ สำหรับลูกค้า Wealth Management ของบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ภัทร
ด้านนายชวลิต จินดาวณิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานปี 2558 เมื่อเทียบกับปี 2557 ว่ากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร มีกำไรสุทธิ 3,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.3% รายได้ รวมอยู่ที่ 15,901 ล้านบาท
โดยรายได้ดังกล่าวแบ่งเป็น รายได้ ดอกเบี้ยสุทธิ 9,449 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59% ของรายได้รวม ที่เหลือคือ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 6,453 ล้านบาท (41%) ซึ่งมาจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจตลาดทุน
สำหรับธุรกิจธนาคารพาณิชย์นั้นมีเงินให้สินเชื่อรวม 177,966 ล้านบาท ลดลง 3.6% อันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และธนาคารโดยรวมเน้นการเติบโตแบบระมัดระวัง สำหรับหนี้สินรวม (เงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ) มีจำนวน 197,988 ล้านบาท ลดลง 3.1% ทั้งนี้ธนาคารยังคงให้ความสำคัญในการควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ โดยมีอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 5.8%
ข่าวจาก แนวหน้า
1637 total views, 1 today