ชาวบ้านชุมพร ร้อง DSI จัดการนายทุนดอกเบี้ยโหด
ชาวบ้านชุมพร ร้อง DSI จัดการนายทุนดอกเบี้ยโหด
เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ณ เวลา 11.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI พ.ท.สะอาด พาหา หน.ฝขว.กอ.รมน.สย.1 มทบ.44 ชุมพร ได้นำชาวบ้านชายและหญิงรวม 8 คน พร้อมเอกสารหลักฐานสัญญาเงินกู้นอกระบบ เข้าร้องทุกข์กับ DSI ให้สอบสวนดำเนินคดีกับนายทุนเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ในพื้นที่ จ.ชุมพร หลังนายทุนได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านจำนวนมาก โดยในการยื่นร้องทุกข์ในครั้งนี้ มี นายณัฐวุธ นิติวรวุธ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน
ด้าน พ.ท.สะอาด พาหา หน.ฝขว.กอ.รมน.สย.1 ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว หลังนำชาวบ้านเข้าร้องเรียนต่อ DSI ว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 ให้ดำเนินการตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/2559 เรื่องการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามปัญหาแก๊งเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ จ.ชุมพร
ทั้งนี้ในช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบจับกุมแก๊งเงินกู้นอกระบบที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่กว่า 100 แห่ง โดยแต่ละแห่งจะมีสมาชิกประมาณ 10 – 20 คน ซึ่งลักษณะการทำงานจะเป็นรูปแบบบริษัท มีสายงานบังคับบัญชาตามลำดับชั้นกระจายกันออกปล่อยเงินกู้ในพื้นที่ จังหวัด ชุมพร ประจวบคีรีขัน ระนอง
ซึ่งในการปล่อยกู้นอกระบบจะมีการคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 20 บาท โดยเก็บดอกเบี้ยเป็นรายวัน ส่วนนายทุนใหญ่นั้นจะอยู่ในแถบจังหวัดภาคกลาง ส่วนที่ตนนำชาวบ้านมาร้องต่อ DSI ในครั้งนี้นั้น เนื่องจากมีชาวบ้านจำนวนมากได้มาร้องเรียนตนและจากการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นพบว่ามีชาวบ้านในพื้นที่นับร้อยราย ได้ไปกู้เงินนอกระบบกับนายทุนใหญ่รายหนึ่งที่ทำธุรกิจบังหน้าอยู่แถวตำบลวังไผ่ อำเภอเมืองชุมพร แต่เบื้องหลังปล่อยเงินกู้นอกระบบและทำธุรกิจบางอย่างเพื่อฟอกเงิน
วิธีการคือให้ชาวบ้านไปกู้เงิน แต่คิดดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยให้ชาวทำเป็นสัญญาเงินกู้ เมื่อชาวบ้านไม่ได้ส่งตามกำหนดหรือส่งช้า พอนานๆไปก็ให้ชาวบ้านไปแก้ไขทำสัญญาใหม่โดยนำดอกมาทบเป็นเงินต้น บางรายก็ใช้วิธีพูดจาเกลี้ยกล่อมให้เซ็นกระดาษเปล่า จากนั้นจะไปข่มขู่ชาวบ้านจากเงินที่กู้จริง 1 หมื่นบาทก็จะเป็น 1 แสนบาท บางรายจาก 1 แสนบาท ก็เป็นกลายเป็น 5 แสนบาทหรือสูงกว่านั้นก็มี
ลักษณะการแก้ไขสัญญาเป็นไปในหลายรูปแบบทำให้ชาวบ้านที่ไม่รู้กฏหมายต้องตกเป็นเหยื่อเดือดร้อนกันจำนวนมาก โดยชาวบ้านทั้งหมด 8 รายที่มาร้อง DSI ในวันนี้ ส่วนใหญ่กู้จริงแค่หลักหมื่นหลักแสนเท่านั้น แต่ถูกบังคับให้แก้ไขสัญญาจนเป็นหนี้นับล้านบาท และยังมีชาวบ้านอีกเป็นจำนวนมากที่ตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ จึงเข้ามาร้องเรียน DSI และได้มีการรับเรื่องไว้แล้ว
1951 total views, 1 today