จับเสี่ยปราณบุรี เจ้าพ่อเงินกู้โหด
จับเสี่ยปราณบุรี เจ้าพ่อเงินกู้โหด
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำกำลังชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และทหารจากมณฑลทหารบกที่ 15 ชุดร้อยรักษาความสงบ ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนรัชต์ ร่วมกันนำกำลังลงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรวจค้นเป้าหมายแก๊งค์ปล่อยเงินกู้นอกระบบผิดกฎหมายและใช้ความรุนแรงปล่อยเงินกู้โหด
ซึ่งการตรวจค้นเป้าหมายในครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าได้ทำสัญญากู้เงินจากเสี่ยรายนี้ใน อำเภอ ปราณบุรี จำนวนเงิน 370,000 บาท โดยมีโฉนดที่ดินค้ำประกัน ซึงในหนังสือสัญญาไม่ได้ระบุถึงอัตราดอกเบี้ยที่จะใช้ ซึ่งต่อมาภายหลังปรากฎว่ามีการคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ลูกน้องของเสี่ยรายนี้ยังมีพฤติกรรมข่มขู่และพกพาอาวุธอีกด้วย
ทำให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ10 สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านและร้านค้าเป้าหมาย 4 แห่ง ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวของเสี่ยรายนี้ ในอำเภอปราณบุรี อำเภอหัวหิน อำเภอชะอำ และอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งผลการตรวจค้นพบอาวุธเป็นจำนวนมาก และยังพบสัญญาที่ระบุการคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 1 ฉบับ และสัญญาที่ไม่กรอกตัวเลขของผู้เสียหาย และยังพบแผ่นป้ายทะเบียนรถบรรทุก รถยนต์ และรถจักรยานยนต์อีกจำนวนมาก พร้อมทั้งโฉนดที่ดินหลายร้อยแผ่น เจ้าหน้าที่จะได้นำไปตรวจสอบต่อไป
โดยในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงิน หรือกระทำการใดๆอันเป็นลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อหาข่มขู่ใช้ความรุนแรง หรือกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือผู้อื่น
ข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือของบุคคลที่สามจนผู้ถูกข่มขืนใจยอม เช่นว่านั้น
และข้อหาเปิดให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลให้กู้ยืมเงินโดยไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้แล้วในวันเดียวกันนี้ ยังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.ปราณบุรี ในคดีเดียวกันอีก 5 ราย
ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา นอกจากหลักฐานเกี่ยวกับอาวุธเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีหลักฐานที่จะเอาผิดได้อย่างชัดเจนก็คือ เอกสารการกู้ยืมเงินที่ระบุว่า กู้เงิน 150,000 บาท แต่ชำระคืน 270,000 บาท และสัญญาเปล่า ที่ไม่ระบุตัวเลข หรือรายละเอียด แต่มีการลงรายมือชื่อของ เจ้าทุกข์ไว้แล้ว
นอกจากนี้แล้วยังขอเชิญชวนให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนเงินกู้โหดรายนี้สามารถมาแจ้งได้ที่ สภ.ปราณบุรีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะถือว่าเป็ฯนายทุนรายใหญ่ในพื้นที่ ที่รัฐจะต้องปราบปรามให้หมดไปตามนโยบายแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล
2668 total views, 2 today